คุณ!!! มองหาโอกาสหรือมองเห็นแค่อุปสรรค
(เขียนจากบทสนทนาที่เกิดขึ้นในวงเหล้า)
วันนี้บรรยากาศดีนะพี่!!!
เสียงตะโกนมาจากบ้านฝั่งตรงข้ามที่เข้ามาทักทายผมคำแรก แล้วก็ทักแบบนี้เหมือนๆ
กับทุกวัน เป็นคำทักทายที่มีความหมายรู้กันในหมู่นักสังสรรค์ประจำซอย
ก็ทำไงได้ล่ะครับ บรรยากาศคงดีเหมือนที่น้องมันพูด ผมก็เลยหลวมตัวไปนั่งร่วมวงด้วย
นั่งไปสักพักก็จะมีเพื่อนบ้าน ที่เป็นขาประจำอีกสี่ห้าคนมาเสริมทัพ
บรรยากาศในวงเหล้าเป็นอะไรที่สรวลเส เฮฮามาก นี่คงเป็นสิ่งที่ทำให้ผมหลงใหลในการนี้
แต่ก็ไม่ได้เมามายจนเสียการงาน กลับบ้านไม่ถูกหรอกนะ แค่ไปกินบรรยากาศเฉยๆ “พูดจริงๆนะครับ”
“เมาแล้วพูดเรื่อยเปื่อย ท่าจะจริงอย่างเค้าว่า”
เหตุผลที่วงเหล้ามักมีความสนุกสนาน
เบิกบานเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาคงเป็นเพราะการพูดคุยที่ถูกคอ ไม่ขัดใจกัน
คุยกันได้ทุกเรื่อง ทั้งเรื่องสารทุกข์สุขดิบ ระบายความเครียด หยอกล้อเล่นกัน
แต่ก็ใช่ว่าจะคุยเรื่องไร้สาระกันอย่างเดียวนะครับ
บางครั้งก็มีการแลกเปลี่ยนความรู้กันบ้าง ปรึกษาเรื่องงานกันบ้าง ก็เลยทำให้บรรยากาศไม่น่าเบื่อ
และส่วนมากคนที่ชวนคุยเรื่องงานก็คือไอ้น้องคนที่ตะโกนชวนผมตั้งวงนี่แหละครับ
ชอบหลักการพอคุยเรื่องงานทีไรยาวทุกทีมันจบไม่ค่อยลงจริงๆ
“ถ้าสร้างโอกาสเองได้ คุณจะสร้างมันมั้ย”
ขอบคุณภาพจาก : www.pexels.com
เมื่อคุยกันเรื่องงานก็ต้องใช้ความคิดกันขึ้นมาแล้วละสิครับ
เมาขนาดไหนก็ต้องตั้งสติกันละคราวนี้ ก็น้องมันเปิดประเด็นมาแล้วนี่เลยต้องช่วยๆ
กันประคองให้จบ ประเด็นคือน้องเค้าได้งานใหม่ก็เลยอธิบายลักษณะการทำงานให้พี่อีกคนฟัง
ซึ่งทำงานกันคนละบริษัท แต่ก็สายงานเดียวกัน ผมก็รอดละครับ รอฟังอย่างเดียว
สองคนเค้าก็คุยกันไปจนถึงจุดหนึ่งที่ผมสะกิดใจขึ้นมา “เพราะมองเห็นโอกาสบางอย่างที่สามารถนำมาสร้างธุรกิจส่วนตัวได้”
จึงแนะนำไปครับว่าให้ลองทำแบบนั้น
ทำแบบนี้ดูเผื่อว่าจะมีโอกาสสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง พอผมพูดจบทุกคนที่ร่วมวงก็เริ่มแสดงความคิดเห็นที่ต่างกันออกไป
บางคนมองเห็นแต่ปัญหาและความกลัวก็จะคอยตั้งคำถามกลับมาถึงผมว่า
ถ้าเป็นแบบนั้นทำไง ถ้าเจอแบบนี้ล่ะทำไง คือมีแต่คำถามเต็มไปหมด
ผมจึงพูดออกมาอีกคำนึงครับว่า “พี่ต้องสร้างโอกาสให้ตัวเองสิ และต้องคิดบวก”
หลังจากนั้นจึงชวนกันคุยเรื่องอื่นครับ
จบประเด็นร้อนของวันนี้ลงไปกลับสู่โมด พูดจาประสาขี้เมาเหมือนเดิม เมื่อถึงเช้าของอีกวันผมจึงเขียนบทความนี้ขึ้นมาและสรุปให้ทุกคนลองคิดกันดูครับว่าเหตุการณ์ที่ผมเล่ามา
ถ้าเป็นคุณ...จะมีความคิดเห็นอย่างไร? ระหว่างการมองหาโอกาสกับการสร้างอุปสรรคให้ตัวเอง
“คุณ!!!มองหาโอกาสหรือมองเห็นแค่อุปสรรค”
อุปสรรคที่คุณมองเห็นอาจเป็นเพราะความกลัว ๆ
ว่าทำแล้วจะเป็นอย่างนั้น ทำแล้วจะเป็นแบบนี้ กลัวไปหมด
ความกลัวนี้อาจเกิดจากเหตุผลหลักก็คือ “ความไม่รู้”
เมื่อไม่รู้ว่าเป็นแบบนี้แล้วจะต้องทำอย่างไร แก้ไขยังไง ก็เลยไปต่อไม่ได้
ปิดกั้นความคิดตัวเอง คิดด้านลบไว้ก่อน “Negative Thinking” บางอย่างถ้าคุณยังไม่ลงมือทำก็ไม่มีวันรู้หรอกว่าอุปสรรคที่อยู่ข้างหน้ามันคืออะไร
และจะแก้ไขอย่างไรจนกว่าคุณจะได้เผชิญหน้ากับมัน
เมื่อถึงจุดนั้นแล้วผมเชื่อว่าทุกคนก็ต้องดิ้นรนแก้ปัญหาเพื่อความอยู่รอดกันทั้งนั้น
คงไม่มีใครนอนรอให้ปัญหามันแก้ตัวเองหรอกมั้งครับ ฉะนั้นจงเปลี่ยนมุมมองของคุณตั้งแต่อ่านบทความนี้จบเลยนะ คุณอาจพบกับฝันอันสวยงามเร็วกว่าคนปกติก็เป็นได้
ผมมองเห็นโอกาสและคิดบวก “Positive Thinking” ในนามที่ผมเป็นนักธุรกิจตัวเล็กๆ
ไม่ได้ร่ำรวยอะไรแต่ก็สร้างมันขึ้นมาได้เพราะผมชอบ “มองหาโอกาสจากสิ่งรอบข้าง”
ผมจึงมีมุมมองการทำธุรกิจใหม่ๆ อยู่เสมอ “แต่สำหรับใครที่ยังไม่ได้เริ่มธุรกิจ
และคิดที่จะเริ่มมัน ที่สำคัญไม่รู้จะเริ่มยังไง”
ลองเปลี่ยนมุมมองใหม่ตามที่ผมแนะนำคือ “มองหาโอกาส และคิดด้านบวก”
รับรองว่าคุณจะเจอโอกาสเยอะแยะมากมายเข้ามาในชีวิตจนเลือกทำไม่ถูกเลยละครับ สวัสดีครับ...
ลุ๊ค@ME
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น