"ถ้าต้องทำทุกอย่างเอง เราคงได้สิทธิบัตร แต่ของที่ทำออกมาคงไม่ทันกับเวลาและความต้องการของตลาด กำลังแข่งขันด้อยกว่าทั้งคุณภาพและปริมาณ นวัตกรรมแบบนี้จะมีประโยชน์อะไร"
คำกล่าวของ เหรินเจิ้งเฟย ประธานบริษัทหัวเว่ย อ้างอิงจากหนังสือ จากมดสู่มังกร ที่เขียนโดย หยางเซ่าหลง
ผมหยิบยกเรื่องนี้มาเล่าให้ฟังก็เพราะว่า ผมพยายามเขียนเว็บแอปพลิเคชั่นของตัวเองเพื่อช่วยให้งานของลูกค้าเป็นไปอย่างราบรื่นและทันสมัย ในระหว่างที่ผมเพิ่งเริ่มต้นกลับพบว่าคู่แข่งรายอื่นๆ พัฒนาระบบนี้ไปไกลมากจนผมอาจตามไม่ทัน
แนวคิดลัทธิต่อยอดช่วยให้ผมคลายความกังวลเรื่อง ข้อจำกัดทางด้านเทคโนโลยีของบริษัทได้อย่างมาก เราไม่จำเป็นต้องสร้างนวัตกรรมด้วยตัวเอง แต่สามารถนำเอานวัตกรรมที่มีอยู่แล้วอย่างสมบูรณ์แบบมาปรับให้เข้ากับธุรกิจของเรา เท่านี้ก็ทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ ไม่เสี่ยงที่จะถูกเขี่ยตกชั้นจนต้องปิดกิจการ
ผมไม่แปลกใจเลยนะครับว่า หัวเว่ย ทำไมถึงก้าวขึ้นอันดับต้นๆ ด้านเทคโนโลยีสื่อสารของโลกได้อย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งอาจมาจากแนวคิดลัทธิต่อยอดที่ใช้ได้จนถึงปัจจุบัน อย่างเช่นสมาร์ทโฟนหัวเว่ย เลือกใช้ระบบปฏิบัติการ android ที่มีความเสถียรและใช้งานได้ดี แทนการเขียนระบบปฏิบัติการด้วยตนเอง ซึ่งอาจใช้เวลานานและไม่ทันต่อความต้องการของตลาดก็เป็นได้
ข้อมูลอ้างอิง : จากหนังสือ จากมดสู่มังกร ที่เขียนโดย หยางเซ่าหลง
ลุ๊ค@ME
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น