ทำงานประจำหรือทำธุรกิจส่วนตัว
สำหรับหัวข้อนี้ผมจะมาพูดถึงความแตกต่างระหว่าง
“การทำงานประจำ” กับ “การทำธุรกิจส่วนตัว” เพื่อให้ทุกคนที่อ่านบทความนี้ได้ใช้ประกอบการตัดสินใจกันครับว่าจะเป็นแบบไหนดี
โดยปกติแล้วแทบทุกคนที่อ่านอยู่ก็คงต้องการทำธุรกิจส่วนตัวด้วยกันทั้งนั้น แต่เชื่อหรือไม่ครับว่ามีบางคนที่ทำธุรกิจส่วนตัวอยู่ก็อยากกลับมาทำงานประจำด้วยเช่นกัน
เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นผมจึงได้สรุปข้อดีและข้อเสียระหว่างการทำงานประจำกับการทำธุรกิจส่วนตัวมาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ
ทำงานประจำ
ข้อดี:
- มีเงินเดือนแน่นอนเมื่อถึงรอบการจ่ายเงิน
- ไม่เสี่ยงขาดทุนไม่ว่ากิจการจะได้กำไรหรือขาดทุนก็ไม่ส่งผลต่อเรามากนัก
- ทำงานมาก ทำงานน้อยก็ยังได้เงินเดือนอยู่ดี
- ไม่เสี่ยงเป็นหนี้ที่เกิดจากผลประกอบการเมื่ออยู่ในภาวะขาดทุน
- เมื่อทำผลงานดีอาจได้ผลตอบแทนพิเศษ เช่น โบนัส ค่าคอมมิชชั่น
- เบื่องานก็สามารถลาออกแล้วหางานใหม่ได้โดยไม่มีผลเสียอะไรมากนัก
- บางคนอาจมีโอกาสเติบโตในหน้าที่การงาน เป็นผู้จัดการ เป็นผู้บริหาร
ข้อเสีย:
- เงินเดือนเท่าเดิมหนึ่งปีอาจปรับเพียงหนึ่งครั้งไม่เกินสองครั้ง
- ไม่มีกำไรจากผลประกอบการเพราะเป็นลูกจ้าง
- ทำงานหนักเท่าไรก็ยังได้เงินเดือนเท่าเดิม
- ทำผลงานไม่ดีก็อาจไม่ได้โบนัสหรือค่าคอมมิชชั่น
- ไม่มีอิสระในการดำเนินชีวิต เข้าออกงานตามเวลาที่กำหนดไว้
- ไม่มีอิสระในการทำงานต้องทำตามความต้องการของนายจ้าง
ข้อดี:
- ได้ผลตอบแทนจริงตามปริมาณงานที่ทำ
- ขายมาก ได้กำไรมาก รวยเร็ว
- มีโอกาสประสบความสำเร็จสูง
- มีอิสระในการทำงาน ไม่ต้องเข้างานเป็นเวลา
- มีอิสระในการใช้ชีวิต อยากไปไหนไม่ต้องลางาน
ข้อเสีย:
- ช่วงแรกไม่มีเงินเดือนที่แน่นอน ขึ้นอยู่กับผลประกอบการ
- อาจขาดทุนได้หากขายสินค้าไม่ได้ หรือไม่มีลูกค้า
- บริหารงานทุกอย่าง ทั้งการเงิน ลูกจ้าง ลูกค้า และอื่นๆ
- เสี่ยงกับการเป็นหนี้จากผลประกอบการที่ขาดทุน
- ทำงานหนักเพราะต้องทุ่มเทกายและใจจนอาจไม่มีเวลาทำอย่างอื่น
- เหนื่อย ท้อแค่ไหนก็ไม่สามารถลาออกได้ ไม่ไหวจริงๆก็ต้องปิดกิจการ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครอยากปิดเพราะได้ลงทุนไปแล้ว
นี่เป็นเพียงเหตุผลบางส่วนที่ผมยกตัวอย่างมาให้ทุกคนได้อ่านกันนะครับ
หากกล่าวโดยสรุปแล้วทั้งสองอย่างมีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกันออกไปครับ การทำงานประจำก็ใช่ว่าจะมีแต่ผลเสียหากเราตั้งใจทำงาน
ขยัน ไม่เลือกงานเราก็สามารถประสบความสำเร็จได้ ซึ่งก็ไม่ต่างกันการทำธุรกิจส่วนตัวก็ต้องทำงานอย่างหนัก
ทุ่มเทและขยันจึงจะสามารถประสบความสำเร็จได้ ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงคือ การทำธุรกิจส่วนตัวมีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงกว่าทำงานประจำอย่างแน่นอนแบบที่ไม่อาจนำมาเทียบกันได้เลยก็มีนะครับ
ทั้งจากผลกำไร จากเงินปันผลและอื่นๆอีกมากมาย แต่อย่าลืมว่าธุรกิจส่วนตัวก็มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนหรือเป็นหนี้จนหมดเนื้อหมดตัวได้เช่นกัน
สุดท้ายนี้ผมหวังว่าสิ่งที่ผมนำมาแบ่งปันให้กับทุกคน
จะช่วยเสริมให้สามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะครับว่าตัวเราเองนั้นเหมาะสมที่จะอยู่ตรงจุดไหน แต่อย่างไรก็ตามผมแนะนำให้สำรวจความพร้อมของตนเองก่อนก็ดีครับเพราะถ้าเรายังเป็นคนขี้เกียจ
ไม่มีวินัย ก็ยากที่จะทำอะไรให้ประสบความสำเร็จได้
ลุ๊ค@ME
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น