เพื่อนเราหาได้ทุกที่ แม่เรามีได้เพียงคนเดียว

วันนี้ผมงานยุ่งมากเลยครับแม่ เดี๋ยวผมโทรหานะครับ

น้ำเสียงแสดงอาการหงุดหงิดเล็กน้อยจากลูกชายเมื่อรับสายโทรศัพท์จากแม่ แม่ยังไม่ทันพูดอะไรเลยสักคำแต่เขากลับบอกปัด ที่จะพูดคุยกับแม่แล้วนั่งทำงานต่อ จวบจนเลิกงาน สังสรรค์ กินข้าวกับเพื่อนๆ สนุกสนานเฮฮา กลับบ้านเวลาปาเข้าไปห้าทุ่มครึ่ง เค้านึกขึ้นได้ว่ารับปากแม่เอาไว้จะโทรหา แต่เวลานี้แม่คงหลับไปแล้ว
รอยยิ้มอันอิ่มเอมของแม่

หลายครั้งแม่โทรมาหลังเวลาเลิกงานด้วยหวังว่าลูกชายจะว่างคุย แต่กลับถูกไอ้เจ้าลูกชายบอกปัดแบบเดิมๆเหมือนครั้งก่อน เพราะกำลังสังสรรค์กินข้าวอยู่กับเพื่อนๆ

"แม่ครับผมไม่สะดวกคุยเลย เดี๋ยวผมโทรกลับนะครับ" 

ชีวิตของชายหนุ่มคนนี้แต่ละวันแทบไม่ต่างกันเลย เลิกงาน สังสรรค์ กลับบ้านดึก

ตื่นเช้ามาร่างกายอ่อนล้า ได้เวลาไปทำงาน สมองมันยังมึนๆ วันนี้ไม่พร้อมจะคุยกับใคร งานการทำแทบไม่ได้เพราะเมาค้าง รับโทรศัพท์ลูกค้าด้วยหน้าที่ แต่แสดงถึงท่าทีที่หงุดหงิด วางสายได้ไม่นานเสียงสัญญาณจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ชำเรืองมองหน้าจอขึ้นชื่อว่า "แม่" ชายหนุ่มทำหน้าเซ็งเล็กน้อย ไม่ยอมรับสายพลางคิดในใจ "เดี๋ยวสร่างเมาค่อยโทรกลับ"

เมื่อเวลาผ่านไปเนิ่นนาน จากชายหนุ่มที่เคยโทรหาแม่เกือบทุกวัน ไถ่ถามทุกข์สุข ให้กำลังใจ ส่งเงินให้ใช้ทุกเดือน เด็กคนนั้นค่อยๆหายไป เริ่มโทรหาแม่น้อยลง จากทุกวัน กลายเป็นวันเว้นวัน เพิ่มเป็นอาทิตย์ละวัน เลยเถิดมาจนถึงขั้นแม่ต้องโทรหาเองแล้วในทุกวันนี้ เงินทองไม่ต้องพูดถึงเพราะไม่ได้ส่งให้แม่มาหลายเดือน บางเดือนต้องโทรมาขอยืม แต่แม่บอกไม่เป็นไร "แม่ให้" แค่ลูกโทรมาแม่ก็ดีใจแค่ไหนแล้ว

แม่กลัวลัคกี้ไม่อิ่ม

ในใจเด็กหนุ่มที่กำลังลุ่มหลงความ เฮฮา สังสรรค์ สนุกสนานไปวันๆ  อยู่กับเพื่อนๆที่คิดว่ารู้ใจ จนคิดว่านั่นคือชีวิตที่ไม่มีอะไรมาเทียบและมันเป็นความสุขที่แท้จริง ทุกวันเขาให้ความสำคัญกับเพื่อน ไม่ว่าเพื่อนจะชวนทำอะไร กินกันที่ไหน ชายหนุ่มไม่เคยปฏิเสธ แต่เพียงแค่แม่โทรมาอยากจะคุยด้วยสักคำสองคำเค้ากลับบอกปัดได้อย่างไม่คิดรีรอ

ชายหนุ่มลืมไปว่ามีคนสำคัญมากกว่าเพื่อน ที่ไม่เคยขออะไรมากมายจากเขา เพียงแค่ได้คุย ได้ยินเสียง ได้รู้ว่ายังสุขสบายดี เพียงเท่านี้ก็ชื่นใจ มีแรงอยู่ต่อไปบนโลกอย่างมีความหวัง แต่ทุกวันนี้แม่กลับรู้สึกว่าลูกชายนับวันจะยิ่งห่างออกไปทุกที ทุกที "วันแม่ปีนี้ก็คงต้องลุ้นว่าจะกลับมาหาแม่เหมือนเคยหรือไม่"

"ปีที่แล้วเขาก็ไม่ได้มาไหว้แม่เหมือนปีก่อนๆ"

แม่พูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ ในแววตาดูเศร้า ด้วยไม่รู้ว่าจะได้เจอหน้าลูกชายในวันหยุดนี้เหมือนกับแม่คนอื่นๆหรือไม่ เพราะเมื่อถามไปไอ้เจ้าลูกชายก็ไม่ตอบ คงยังไม่แน่ใจว่าจะนัดเพื่อนไปไหนกันหรือป่าว

โดยปกติแล้วเขาจะมาไหว้แม่ทุกปี แต่หลังๆมานี้เริ่มห่างออกไป บางปีก็ไม่ได้กลับมา บางปีมาก็ไปหาสังสรรค์เที่ยวกับเพื่อนในตัวเมือง แม่รู้สึกเหมือนมีความสำคัญรองลงมา เหมือนเขาไม่ได้ตั้งใจมาหาแม่ เพราะมาแต่ละครั้งก็มีคิวนัดเพื่อนไว้จนยาวเหยียด

"อย่าทำให้แม่รู้สึกว่าตัวเองสำคัญน้อยลงไปกว่าเพื่อนหรือใครก็ตาม"

แม่แก่ขึ้นทุกวัน เหมือนไม้ที่ไกล้ฝั่งเข้าไปทุกที อย่าให้ท่านรู้สึกว่ายิ่งแก่ยิ่งไม่มีความหมาย ไม่มีใครสนใจ ไม่มีใครคอยดูแล มองไปทางไหนก็เคว้งคว้าง อ้างว้างไม่มีลูกอยู่ข้างกายสักคน

ในฐานะลูกคนหนึ่ง เราควรใช้เวลาที่มีอยู่กับท่านอย่างคุ้มค่า เก็บรักษาช่วงเวลาที่ดีเอาไว้ให้ได้มากที่สุด คอยอยู่เป็นเพื่อนคุย คอยดูแลรักษายามเจ็บไข้ คอยห่วงใยเอาใจใส่ท่าน สิ่งที่เราทำมันอาจเป็นเพียงหน้าที่ แต่สำหรับแม่แล้วมันคือความปลื้มปีติยินดี ความอิ่มอกอิ่มใจ ไปไหนยิ้มหน้าบาน เพราะในชีวิตนี้ไม่มีอะไรมาทดแทนกำลังใจจากลูกได้อีกแล้ว

อย่าลืมนะครับว่า "เพื่อนเราหาได้ทุกที่ แม่เรามีได้เพียงคนเดียว"


ลุ๊ค@ME

ความคิดเห็น